| เรารักในหลวง | |
|
|
ผู้ตั้ง | ข้อความ |
---|
Redrose19 Moderator
จำนวนข้อความ : 201 Registration date : 25/07/2008
| |
| |
Redrose19 Moderator
จำนวนข้อความ : 201 Registration date : 25/07/2008
| |
| |
Redrose19 Moderator
จำนวนข้อความ : 201 Registration date : 25/07/2008
| เรื่อง: Re: เรารักในหลวง Wed Aug 13 2008, 02:38 | |
| ภาพนี้...ถ้าใครมี... ต้องเอาไปใส่กรอบ เป็นภาพความรักของแม่...ที่มีต่อลูก...อย่างยอดเยี่ยม ตอนสมเด็จย่า...หอมแก้มในหลวง... อาจารย์คิดว่า แก้มในหลวง...คงไม่หอมเท่าไร...เพราะไม่ได้ใส่น้ำหอม แต่ทำไม... สมเด็จย่าหอมแล้ว...ชื่นใจ... เพราะ ท่านได้กลิ่นหอม... จากหัวใจในหลวง หอมกลิ่นกตัญญ ไม่นึกเลยว่า...ลูกคนนี้ จะกตัญญูขนาดนี้ จะรักแม่มากขนาดนี้ ตัวแม่เองคือ สมเด็จย่า...ไม่ได้เป็นเชื้อพระวงศ์ เป็นคนธรรมดา...สามัญชน ...เป็นเด็กหญิงสังวาลย์ เกิดหลังวัดอนงค์... เหมือนเด็กหญิงทั่วไป... เหมือนพวกเราทุกคนในที่นี้ ในหลวงหน่ะ...เกิดมาเป็นพระองค์เจ้า เป็นลูกเจ้าฟ้า ปัจจุบันเป็นกษัตริย์...เป็น พระเจ้าแผ่นดินอยู่เหนือหัว แต่ในหลวง... ที่เป็นพระเจ้าแผ่นดิน... ก้มลงกราบ...คนธรรมดา... ที่เป็นแม่ หัวใจลูก... ที่เคารพแม่... กตัญญูกับแม่อย่างนี้ หาไม่ได้อีกแล้ว...คนบางคน... พอเป็นใหญ่เป็นโต ไม่กล้าไหว้แม่... เพราะแม่มาจากเบื้องต่ำ...เป็นชาวนา... เป็น ลูกจ้าง... ไม่เคารพแม่...ดูถูกแม่ แต่นี่...ในหลวง เทิดแม่ไว้เหนือหัว... นี่แหละครับความหอม นี่คือเหตุที่สมเด็จย่า...หอมแก้มในหลวงทุกครั้ง... ท่านหอมความดี... หอมคุณธรรม...หอมกตัญญู... ของในหลวง หอมแก้มเสร็จแล้ว...ก็ร่วมโต๊ะเสวย ...ตอนกินข้าวนี่...ปกติ.. .แค่เห็นลูกมาเยี่ยม...ก็ชื่นใจแล้ว...นี่ลูกมากินข้าวด้วย...โอย...ยิ่งปลื้มใจ แม่ทั้งหลาย...ลองคิดดูซิ...อะไรอร่อย ๆ ในหลวงจะตักใส่ช้อนแม่...อันนี้ อร่อย...แม่ลองทาน... รู้ว่าแม่ชอบทานผัก...หยิบผักมาม้วน ๆ ใส่ช้อนแม่... เอ้าแม่ ...แม่ทานซะ...ของที่แม่ชอบ แทนที่จะกินแค่ 3 คำ 4 คำ ก็เจริญอาหาร...กินได้เยอะ เพราะมีความสุขที่ได้กินข้าวกับลูก มีความสุขที่ลูกดูแล...เอาใจใส่...กินข้าวเสร็จแล้ว...ก็มานั่งคุยกับแม่... ในหลวงดำรัสกับแม่ว่าไง... ทราบไหม...? ตอนในหลวงเล็ก ๆ...แม่เคยสอนอะไรที่สำคัญ..."อยากฟังแม่สอนอีก" เป็นยังไงบ้าง...? เป็นกษัตริย์...ปกครองประเทศ... อยากฟังแม่สอนอีก... พวกเรา เป็นยังไง...? เราคิดว่า...เรารู้มาก ...เราเรียนสูง...เรามีปริญญา... แม่จบ ป.4 เวลาแม่สอน...ตะคอกแม่ ตวาดแม่ กระทืบเท้าใส่แม่ เบื่อจะตายอยู่แล้ว... รำคาญ...พูดจาซ้ำซาก... เมื่อไหร่จะหยุดพูดซะที... เราเหยียบย่ำ หัวใจแม่สมเด็จย่าสอน...ในหลวงจะเอากระดาษมาจด... มีอยู่เรื่องหนึ่ง... ที่จำได้แม่น... สมเด็จย่า...เล่าว่า ตอนเรียนหนังสือที่ Swiss ในหลวงยังเล็กอยู่ ...เข้ามาบอกว่า...อยากได้รถจักรยาน เพื่อน ๆ เขามีจักรยานกัน แม่บอกว่า "ลูกอยากได้จักรยาน... ลูกก็เก็บสตางค์... ที่แม่ให้ไปกินที่ โรงเรียนไว้ซิ" ...เก็บมาหยอดกระปุก...วันละเหรียญ...สองเหรียญ พอได้มากพอ... ก็เอาไปซื้อจักรยาน...นี่คือสิ่งที่แม่สอน...แม่สอนอะไร...ทราบไหมครับ...? ถ้าเป็นพ่อแม่บางคน...พอลูกขอ...รีบกดปุ่ม ATM ให้เลย ประเคนให้เลย... ลูกก็ ฟุ้งเฟ้อ... ฟุ่มเฟือย... เหลิง... และหลงตัวเองพอโตขึ้น...ขับรถเบนซ์ชนตำรวจ...ก็ได้... ยิงตำรวจ...ยังได้... เพราะหลงตัวเอง... พ่อตนใหญ่ เห็นไหม...? ตามใจ เทิดทูน จนเสียคน...แต่สมเด็จย่านี่...เป็นยอดคุณแม่... สร้างคุณธรรมให้แก่ลูก...ลูกอยากได้ ...ลูกต้องเก็บสตางค์ที่แม่ให้... ไปหย่อนกระปุก... แม่สอน 2 เรื่อง คือ...ให้ประหยัด...ให้ยืนอยู่บนขาของตัวเอง "ความประหยัด...เป็นสมบัติของเศรษฐี" ใครสอนลูกให้ประหยัดได้... คนนั้นกำลังมอบความเป็นเศรษฐีให้แก่ลูก พอถึงวันปีใหม่... สมเด็จย่าก็บอกว่า... "ปีใหม่แล้ว...เราไปซื้อจักรยานกัน..." "เอ้า...แคะกระปุก...ดูซิมีเงินเท่าไหร่...?" เสร็จแล้ว...สมเด็จย่าก็แถมให้... ส่วนที่ แถมนะ... มากกว่าเงินที่มีในกระปุกอีก...มีเมตตา...ให้เงินลูก... ให้...ไม่ได้ให้เปล่า... สอนลูกด้วย...สอนให้ประหยัด สอนว่า...อยากได้อะไร... ต้องเริ่มจากตัวเรา... คำสอนนั้น...ติดตัวในหลวงมาจน ทุกวันนี้...เขาบอกว่า...ในสวนจิตรเนี่ย... คนที่ประหยัดที่สุด...คือ...ในหลวง... ประหยัดที่สุด... ทั้งน้ำ...ทั้งไฟ... เรื่องฟุ้งเฟ้อ...ฟุ่มเฟือย..ไม่มี ...เป็นอันว่า... ภาพนี้ชัดเจน... หวังที่ 2. ยามป่วยไข้... หวังเจ้า... เฝ้ารักษา ดูว่าในหลวง ทำกับ แม่ยังไง...? สมเด็จย่า...ประชวรอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช... ในหลวงไปเยี่ยม... ตอนไหนครับ...? ไปเยี่ยมตอน ตี 1 ตี 2 ตี 4 เศษ ๆ...จึงเสด็จกลับ... ไปเฝ้าแม่วันละ หลายชั่วโมง...แม่...พอเห็นลูกมาเยี่ยม...ก็หายป่วยไปครึ่งหนึ่งแล้วทีมแพทย์ที่รักษาสมเด็จย่า... เห็นในหลวงมาเยี่ยม มาประทับ ก็ต้องฟิต ...ตามไปด้วย ต้องปรึกษาหารือกัน ตลอดเวลาว่า... จะให้ยายังไง...จะเปลี่ยนยาไหม...? จะปรับปรุงการรักษายังไง...ให้ดีขึ้น... ทำให้สมเด็จย่า... ได้รับการดูแลที่ดีขึ้น... | |
|
| |
Redrose19 Moderator
จำนวนข้อความ : 201 Registration date : 25/07/2008
| เรื่อง: Re: เรารักในหลวง Wed Aug 13 2008, 02:41 | |
| กลางคืน...ในหลวงไปอยู่กับสมเด็จย่า...คืนละหลายชั่วโมง...ไปให้ความ อบอุ่นทุกคืน ลองหันมาดูตัวเราเองซิ...ตอนพ่อแม่ป่วย... โผล่หน้าเข้าไปดูหน่อยนึง ถามว่า...ตอนนี้...อาการเป็นยังไง... พ่อแม่...ยังไม่ทันตอบเลยฉันมีธุระ งานยุ่ง ต้องไปแล้ว...โผล่หน้าไปให้เห็น พอแค่เป็นมารยาท... แล้วก็กลับ... เราไม่ได้ไปเพราะความกตัญญู... เราไม่ได้ไปเพื่อ ทดแทนพระคุณท่าน...น่าอายไหม...ในหลวง...เสด็จไปประทับกับแม่... ตอนแม่ป่วย...ไปทุกวัน... ไปให้ความ อบอุ่น...ประทับอยู่วันละหลายชั่วโมง... นี่คือ...สิ่งที่ในหลวงทำคราวหนึ่ง...ในหลวงป่วย... สมเด็จย่า...ก็ป่วย … ไปอยู่ศิริราช...ด้วยกัน ...อยู่คนละมุมตึก... ตอนเช้า... ในหลวงเปิด ประตู....แอ๊ด.....ออกมา... พยาบาลกำลัง เข็นรถสมเด็จย่า... ออกมารับลมผ่านหน้าห้องพอดี ในหลวง...พอเห็นแม่... รีบออกจากห้อง... มาแย่งพยาบาลเข็นรถ มหาดเล็ก ...กราบทูลว่า ไม่เป็นไร...ไม่ต้องเข็น มีพยาบาลเข็นให้อยู่แล้ว ในหลวงมีรับสั่งว่า..."แม่ของเรา...ทำไมต้องให้คนอื่นเข็น...เราเข็นเองได้..."นี่ขนาดเป็นพระเจ้าแผ่นดิน... เป็นกษัตริย์... ยังมาเดินเข็นรถให้แม่ ยังมาป้อนข้าว...ป้อนน้ำให้แม่... ป้อนยาให้แม่ ให้ความอบอุ่นแก่แม่... เลี้ยงหัวใจ แม่... ยอดเยี่ยมจริง ๆ ... เห็นภาพนี้แล้ว....ซาบซึ้ง มาตามดูต่อ.... หวังที่ 3. เมื่อถึงยาม...ต้องตาย...วายชีวา ...หวังลูกช่วย....ปิดตา ...เมื่อสิ้นใจ วันนั้น...ในหลวง...เฝ้าสมเด็จย่า อยู่จนถึงตี 4 ตี 5 เฝ้าแม่อยู่ทั้งคืน... จับมือแม่...กอดแม่...ปรนนิบัติแม่... จนกระทั่ง..."แม่หลับ…" จึงเสด็จกลับพอถึงวัง... เขาโทรศัพท์มาบอกว่า... สมเด็จย่าสิ้นพระชนม์... ในหลวง...รีบเสด็จกลับไป...ศิริราช...เห็นสมเด็จย่านอนหลับตาอยู่บนเตียง... ในหลวง ทำยังไงครับ... ในหลวงตรงเข้าไป... คุกเข่า...กราบลงที่หน้าอกแม่... พระพักตร์ในหลวง...ตรงกับหัวใจแม่... "ขอหอมหัวใจแม่เป็นครั้ง สุดท้าย..." ซบหน้านิ่ง...อยู่นาน... แล้วค่อย ๆ เงยพระพักตร์ขึ้น.... น้ำพระเนตรไหลนอง.... ต่อไปนี้... จะไม่มีแม่ให้หอมอีกแล้ว... เอามือ...กุมมือแม่ไว้ มือนิ่ม ๆ .....ที่ ไกวเปลนี้แหละ ที่ปั้นลูก...จนได้เป็นกษัตริย์... เป็นที่รักของคนทั้งบ้านทั้งเมือง...ชีวิตลูก....แม่ปั้น.มองเห็นหวี... ปักอยู่ที่ผมแม่... ในหลวงจับหวี...ค่อย ๆ หวีผมให้แม่...หวี... หวี...หวี.... หวีให้แม่สวยที่สุด... แต่งตัวให้แม่...ให้แม่สวยที่สุด... ในวันสุดท้าย ของแม่....เป็นภาพที่ประทับใจอาจารย์เป็นที่สุด... เป็นสุดยอดของลูกกตัญญู.... หาที่เปรียบไม่ได้อีกแล้ว.....
กษัตริย์.....ยอดกตัญญู ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ
แก้ไขล่าสุดโดย Redrose19 เมื่อ Sun Sep 07 2008, 21:59, ทั้งหมด 1 ครั้ง | |
|
| |
Bluemoon Moderator
จำนวนข้อความ : 882 Registration date : 23/07/2008
| เรื่อง: Re: เรารักในหลวง Wed Aug 13 2008, 21:30 | |
| เรื่องของในหลวงที่เราอาจไม่เคยรู้มาก่อน
1.ทรงพระราชสมภพเวลา 08.45น.
2.นายแพทย์ผู้ทำคลอดชื่อ ดับลิว สจ๊วต วิตมอร์ ทรงมีน้ำหนักแรกประสูติ 6 ปอนด์
3.พระนาม 'ภูมิพล' ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7
4.พระยศเมื่อแรกประสูติ คือ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า ภูมิพลอดุลยเดช
5.ทรงมีชื่อเล่น ว่า เล็ก หรือ พระองค์เล็ก
6. ทรงเคยเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนมาแตร์เดอี เพราะช่วงพระชนมายุ 5 พรรษา ทรงเคยเข้าเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ 1 ปี มีพระนามในใบลงทะเบียนว่า 'H.H Bhummibol Mahidol'หมายเลขประจำตัว 449
7.ทรงเรียกสมเด็จพระราชชนนีหรือสมเด็จย่า อย่างธรรมดาว่า 'แม่'
8.สมัยทรงพระเยาว์ ทรงได้ค่าขนม อาทิตย์ละครั้ง
9.แม้จะได้เงินค่าขนมทุกอาทิตย์ แต่ยังทรงรับจ้างเก็บผักผลไม้ไปขาย เมื่อได้เงินมาก็นำไปซื้อเมล็ดผักมาปลูกเพิ่ม
10. สมัยพระเยาว์ทรงเลี้ยงสัตว์หลายชนิดทั้งสุนัข กระต่าย ไก่ นกขุนทอง ลิง แม้แต่งูก็เคยเลี้ยง ครั้งหนึ่งงูตายไ ปก็มีพิธีฝังศพอย่างใหญ่โต
11.สุนัขตัวแรกที่ทรงเลี้ยงสมัยทรงพระเยาว์เป็นสุนัขไทย ทรงตั้งชื่อให้ว่า'บ๊อบบี้'
12. ทรงฉลองพระเนตร(แว่นสายตา)ตั้งแต่พระชันษายังไม่เต็ม 10 ขวบ เพราะครูประจำชั้นสังเกตเห็นว่าเวลาจะทรงจดอะไรจากกระดานดำพระองค์ต้องลุก ขึ้นบ่อยๆ
13.สมัยพระเยาว์ทรงซนบ้าง หากสมเด็จย่าจะลงโทษ จะเจรจากันก่อนว่า โทษนี้ควรตีกี่ที ในหลวงจะทรงต่อรองว่า 3 ที มากเกินไป 2 ทีพอแล้ว
14.ระหว่างประทับอยู่ สวิตเซอร์แลนด์นั้นระหว่างพี่น้องจะทรงใช้ภาษาฝรั่งเศส แต่จะใช้ภาษาไทยกับสมเด็จย่าเสมอ
15. ทรงได้รับการอบรมให้รู้จัก 'การให้' โดยสมเด็จย่าจะทรงตั้งกระป๋องออมสินเรียกว่า 'กระป๋องคนจน' เอาไว้ หากทรงนำเงินไปทำกิจกรรมแล้วมีกำไร จะต้องถูก 'เก็บภาษี' หยอดใส่กระปุกนี้ 10% ทุกสิ้นเดือนสมเด็จย่าจะเรียกประชุมเพื่อถามว่าจะเอาเงินในกระป๋องนี้ไปทำ อะไร เช่น มอบให้โรงเรียนตาบอด มอบให้เด็กกำพร้า หรือทำกิจกรรมเพื่อคนยากจน
16.ครั้งหนึ่ง ในหลวงกราบทูลสมเด็จย่าว่าอยากได้รถจักรยาน เพราะเพื่อนคนอื่นๆ เขามีจักรยานกัน สมเด็จย่าก็ตอบว่า 'ลูกอยากได้จักรยาน ลูกก็ต้องเก็บค่าขนมไว้สิ หยอดกระป๋อ งวันละเหรียญ ได้มาก ค่อยเอาไปซื้อจักรยาน'
17.กล้องถ่ายรูปกล้องแรกของในหลวง คือ Coconet Midget ทรงซื้อด้วยเงินสะสมส่วนพระองค์ เมื่อพระชนม์เพียง 8 พรรษา
18.ช่วงเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทรงปั่นจักรยานไปโรงเรียนแทนรถพระที่นั่ง
19. พระอัจฉริยภาพของในหลวง มีพื้นฐานมาจาก 'การเล่น' สมัยทรงพระเยาว์ เพราะหากอยากได้ของเล่นอะไรต้องทรงเก็บสตางค์ซื้อเอง หรือ ประดิษฐ์เอง ทรงเคยหุ้นค่าขนมกับพระเชษฐา ซื้อชิ้นส่วนวิทยุทีละชิ้นๆ แล้วเอามาประกอบเองเป็นวิทยุ แล้วแบ่งกันฟัง
20.สมเด็จย่าทรงสอนให้ ในหลวงรู้จักการใช้แผนที่และภูมิประเทศของไทย โดยโปรดเกล้าฯให้โรงเรียนเพาะช่างทำแผนที่ประเทศไทยเป็นรูปตัวต่อ เลื่อยเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆเพื่อให้ทรงเล่นเป็นจิ๊กซอว์
21.ในหลวง ทรงเครื่องดนตรีได้หลายชนิด เช่น เปียโน กีตาร์ แซกโซโฟน แต่รู้หรือไม่ว่าเครื่องดนตรีชิ้นแรกที่ทรงหัดเล่นคือ หีบเพลง (แอกคอร์เดียน)
22.ทรงสนพระทัยดนตรีอย่างจริงจังราวพระชนม์ 14-15 พรรษา ทรงซื้อแซกโซโฟนมือสองราคา 300 ฟรังก์มาหัดเล่น โดยใช้เงินสะสมส่วนพระองค์ครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งหนึ่งสมเด็จย่าออกให้
23.ครูสอนดนตร ีให้ในหลวง ชื่อ เวย์เบรชท์ เป็นชาว อัลซาส
24. ทรงพระราชนิพนธ์พลงครั้งแรก เมื่อพระชนมพรรษา 18 พรรษา เพลงพระราชนิพนธ์แรกคือ 'แสงเทียน' จนถึงปัจจุบันพระราชนิพนธ์เพลงไว้ทั้งหมด 48 เพลง
25.ทรงพระราชนิพนธ์ เพลงได้ทุกแห่ง บางครั้งไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องดนตรีช่วย อย่างครั้งหนึ่งทรงเกิดแรงบันดาลพระทัย ทรงฉวยซองจดหมายตีเส้น 5 เส้นแล้วเขียนโน้ตทำนองเพลงขึ้นเดี๋ยวนั้น กลายเป็นเพลง 'เราสู้'
26. รู้ไหม.? ทรงมีพระอุปนิสัยสนใจการถ่ายภาพเหมือนใคร : เหมือนสมเด็จย่า และ รัชกาลที่5 27. นอกจากทรงโปรดการถ่ายภาพแล้ว ยังสนพระทัยการถ่ายภาพยนตร์ด้วย ทรงเคยนำภาพยนตร์ส่วนพระองค์ออกฉายแล้วนำเงินรายได้มาสร้างอาคารสภากาชาดไทย ที่ รพ.จุฬาฯ โรงพยาบาลภูมิพล รวมทั้งใช้ในโครงการโรคโปลิโอและโรคเรื้อนด้วย
28. ทรงพระราชนิพนธ์เรื่อง 'นายอินทร์' และ 'ติโต' ทรงเขียนด้วยลายพระหัตถ์ แล้วให้เสมียนพิมพ์ แต่ 'พระมหาชนก' ทรงพิมพ์ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์
29. ทรงเล่นกีฬาได้หลายชนิด แต่กีฬาที่ทรงโปรดเป็นพิเศษได้แก่ แบดมินตัน สกี และ เรือใบ ทรงเคยได้เหรียญทองจากการแข่งขันเรือใบประเภทโอเค ในกีฬาแหลมทอง(ต่อมาเปล ี่ยนชื่อเป็น'กีฬาซีเกมส์') ครั้งที่ 4 ปี พ.ศ.2510 | |
|
| |
Bluemoon Moderator
จำนวนข้อความ : 882 Registration date : 23/07/2008
| เรื่อง: Re: เรารักในหลวง Wed Aug 13 2008, 21:33 | |
| 30. ครั้งหนึ่ง ทรงเรือใบออกจากฝั่งไปได้ไม่นานก็ทรงแล่นกลับฝั่ง และตรัสกับผู้ที่คอยมาเฝ้าฯว่า เสด็จฯกลับเข้าฝั่งเพราะเรือแล่นไปโดนทุ่นเข้า ซึ่งในกติกาการแข่งเรือใบถือว่าฟาวส์ ทั้งๆที่ไม่มีใครเห็น แสดงให้เห็นว่าทรงยึดกติกามากแค่ไหน
31. ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกของโลกที่ได้รับสิทธิบัตรผลงานประดิษฐ ์คิดค้นเครื่องกลเติมอากาศที่ผิวน้ำหมุนช้าแบบทุ่มลอย หรือ 'กังหันชัยพัฒนา' เมื่อปี 2536
33. ทรงเป็นผู้ริเริ่มการพัฒนาเชื้อเพลิงน้ำมันจากวัสดุการเกษตรเพื่อใช้เป็น พลังงานทดแทน เช่น แก๊สโซฮอล์,ดีโซฮอลล์ และ น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ ต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว
34. องค์การสหประชาชาติ ได้ถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ แด่ในหลวงเมื่อ วันที่ 26 พฤษภาคม 2549 เพื่อสดุดีพระเกียรติคุณพระราชกรณียกิจด้านการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของ ประชาชนชาวไทย โดยมี นายโคฟี อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ เดินทางมาถวายรางวัลด้วยตนเอง
35. พระนามเต็มของในหลวง : พระบาทสมเด็จพระปรมินทรา มหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร
36. รักแรกพบ ของในหลวงและหม่อมสิริกิติ์เกิดขึ้นที่สวิสเซอร์แลนด์ แต่เหตุการณ์ครั้งนั้น สมเด็จพระบรมราชินีนาถฯทรงให้สัมภาษณ์ว่า'น่าจะเป็น เกลียดแรกพบ มากกว่ารักแรกพบ เนื่องเพราะรับสั่งว่าจะเสด็จถึงเวลาบ่าย 4 โมง แต่จริงๆแล้วเสด็จมาถึงหนึ่งทุ่ม ช้ากว่าเวลานัดหมายตั้งสามชั่วโมง
37. ทรงหมั้นกับ ม.ร.ว.สิริกิติ์ กิติยากร เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2492 และจัดพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส ที่วังสระปทุม เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2493 โดยทรงจดทะเบียนสมรสเหมือนคนทั่วไป ข้อความในสมุดทะเบียนก็เหมือนคนทั่วไปทุกอย่าง ปิดอากรแสตมป์ 10 สตางค์ เสียค่าธรรมเนียม 10 บาท
37. หลังอภิเษกสมรส ทรง'ฮันนีมูน'ที่หัวหิน
38. ทรงผนวช ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2499 และประทับจำพรรษา ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นเวลา 15 วัน
39. ระหว่างทรงผนวช พระอุปัชฌาย์และพระพี่เลี้ยง คือ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
40. ของใช้ส่วนพระ องค์นั้นไม่จำเป็นต้องแพงหรือต้องแบรนด์เนม ดังนั้นการถวายของให้ในหลวงจึงไม่จำเป็นจะต้องเป็นของแพง อะไรที่มาจากน้ำใจจะทรงใช้ทั้งนั้น
41. เครื่องประดับ : ในหลวงไม่ทรงโปรดสวมเครื่องประดับ เช่น แหวน สร้อยคอ ของมีค่าต่างๆ ยกเว้น นาฬิกา
42. พระเกศาที่ทรงตัดแล้ว : ส่วนหนึ่งเก็บไว้ที่ธงชัยเฉลิมพลเพื่อมอบแก่ทหาร อีกส่วนหนึ่งเก็บไว้สร้างวัตถุมงคล เพื่อมอบแก่ราษฎรที่ทำคุณงามความดีแก่ประเทศชาติ
43. หลอดยาสีพระทนต์ ทรงใช้จนแบนราบเรียบคล้ายแผ่นกระดาษ โดยเฉพาะบริเวณคอหลอด ยังปรากฏรอยบุ๋มลึกลงไปจนถึงเกลียวคอหลอด ซึ่งเป็นผลจากการใช้ด้ามแปรงสีพระทนต์ช่วยรีด และ กดเป็นรอยบุ๋ม
44. วันที่ในหลวงเสียใจที่สุด คือวันที่สมเด็จย่าเสด็จสวรรคต มีหนังสือเล่าไว้ว่า วันนั้นในหลวงไปเฝ้า แม่ถึงตีสี่ตีห้า พอแม่หลับจึงเสด็จฯกลับ เมื่อถึงวัง ทางโรงพยาบาลก็โทรศัพท์มาแจ้งว่า สมเด็จย่าสิ้นพระชนม์แล้ว ในหลวงรีบกลับไปที่โรงพยาบาล เห็นแม่นอนหลับตาอยุ่บนเตียง ในหลวงคุกเข่าเข้าไปกราบที่อกแม่ ซบหน้านิ่งอยู่นาน ค่อยๆเงยพระพักตร์ขึ้นมาน้ำพระเนตรไหลนอง
45. โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จนถึงปัจจุบนมีจำ นวนกว่า 3,000 โครงการ
46. ทุกครั้งที่เสด็จฯไปยังสถานต่างๆจะทรงมีสิ่งของประจำพระองค์อยู่ 3 สิ่ง คือ แผนที่ซึ่งทรงทำขึ้นเอง(ตัดต่อเอง ปะกาวเอง) กล้องถ่ายรูป และดินสอที่มียางลบ
47.ในหลวงทรงงานด้วยพระองค์เองทุกอย่างแม้กระทั่งการโรเนียวกระดาษที่จะนำมาให้ข้าราชการที่เข้าเฝ้าฯถวายงาน
48. เก็บร่ม : ครั้งหนึ่งเมื่อในหลวงเสด็จฯเยี่ยมโครงการห้วยสัตว์ใหญ่ เมื่อเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งมาถึง ปรากฏว่าฝนตกลงมาอย่างหนัก ข้าราชการและราษฎรที่เข้าแถวรอรับเปียกฝนกันทุกคน เมื่อทรงเห็นดังนั้น จึงมีรับสั่งให้องครักษ์เก็บร่ม แล้วทรงเยี่ยมข้าราชการและราษฎรทั้งกลางสายฝน
49. ทรงศึกษาลักษณะอากาศทุกวัน โดยใช้ข้อมูลที่กรมอุตุนิยมวิทยานำขึ้นทูลเกล้าฯ ร่วมกับข้อมูลจากต่างประเทศที่หามาเอง เพื่อป้องกันภัยธรรมชาติที่อาจก่อความเสียหายแก่ประชาชน
50. โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา เริ่มต้นขึ้นจากเงินส่วนพระองค์จำนวน 32,866.73บาท ซึ่งได้จากการขายหนังสือดนตรีที่พระเจนดุริยางค์ จากการขายนมวัว ก็ค่อยๆเติบโตเป็นโครงการพัฒนามาจนเป็นอย่างที่เราเห็นกันทุกวันนี้
51. เวลามีพระราชอาคันตุกะเสด็จมาเยี่ยมช มโครงการฯสวนจิตรลดา ในหลวงจะเสด็จฯลงมาอธิบายด้วยพระองค์เอง เนื่องจากทรงรู้ทุกรายละเอียด
52. ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช กราบบังคมทูลถามว่า เคยทรงเหนื่อยทรงท้อบ้างหรือไม่ ในหลวงตอบว่า 'ความจริงมันน่าท้อถอยอยู่หรอก บางเรื่องมันน่าท้อถอย แต่ว่าฉันท้อไม่ได้ เพราะเดิมพันของเรานั้นสูงเหลือเกิน เดิมพันของเรานั้นคือบ้านเมือง คือความสุขของคนไทยทั่วประเทศ
53. ทรงนึกถึงแต่ประชาชน แม้กระทั่งวันที่พระองค์ทรงกำลังจะเข้าห้องผ่าตัดกระดูกสันหลังในอีก 5 ชั่วโมง (20 กรกฎาคม 2549) ยังทรงรับสั่งให้ข้าราชบริพารไปติดตั้งคอมพิวเตอร์เดินสายออนไลน์ไว้ เพราะกำลังมีพายุเข้าประเทศ พระองค์จะได้มอนิเตอร์ เผื่อน้ำท่วมจะได้ช่วยเหลือทัน
54. อาหารทรงโปรด : โปรดผัดผักทุกชนิด เช่น ผัดคะน้า ผัดถั่วงอก ผัดถั่วลันเตา
55. ผักที่ไม่โปรด : ผักชี ต้นหอม และตังฉ่าย
56. ทรงเสวย ข้าวกล้อง เป็นพระกระยาหารหลัก
57. ไม่เสวยปลานิล เพราะทรงเป็นผู้เลี้ยงปลานิลคนแรกในประเทศไทย โดยใช้สระว่ายน้ำในพระตำหนักสวนจิตรลดาเป็นบ่อเลี้ยง แล้วแจกจ่ายพันธุ์ไปให้กรมประมง
58. เครื่องดื่มทรงโปรด : โปรดโอวัลตินเป็นพิเศษ เคย เสวยวันหนึ่งหลายครั้ง
59. ทีวีช่องโปรด ทรงโปรดข่าวช่องฝรั่งเศส ของยูบีซี เพื่อทรงรับฟังข่าวสารจากทั่วโลก | |
|
| |
Bluemoon Moderator
จำนวนข้อความ : 882 Registration date : 23/07/2008
| เรื่อง: Re: เรารักในหลวง Wed Aug 13 2008, 21:37 | |
| 60. ทรงฟัง จส.100 และเคยโทรศัพท์ไปรายงานสถานการณ์ต่างๆใน กทม.ไปที ่ จส.100ด้วย โดยใช้พระนามแฝง
61. หนังสือที่ในหลวงอ่าน : ตอนเช้าตื่นบรรทม ในหลวงจะเปิดดูหนังสือพิมพ์รายวันทั้งไทยและเทศ ทุกฉบับ และก่อนเข้านอนจะทรงอ่านนิตยสารไทม์ส นิวสวีก เอเชียวีก ฯลฯ ที่มีข่าวทั่วทุกมุมโลก
62. ร้านตัดเสื้อของในหลวง คือ ร้านยูไลย เจ้าของชื่อ ยูไลย ลาภประเสริฐ ถวายงานตัดเสื้อในหลวงมาตั้งแต่ปี 2501 เมื่อนายยูไลยเสียชีวิต ก็มี ลูกชาย นายสมภพ ลาภประเสริฐ มาถวายงานต่อ จนถึงตอนนี้ก็เกือบ 50 ปีแล้ว
63. ห้องทรงงานของในหลวง อยู่ใกล้ห้องบรรทม บนชั้น 8 ของตำหนักจิตรลดาฯเป็นห้องเล็กๆ ขนาด 3x4 เมตร ภายในห้องมีวิทยุ โทรทัศน์ โทรศัพท์ โทรสาร คอมพิวเตอร์ เครื่องบันทึกเสียง เครื่องพยากรณ์ แผนที่ ฯลฯ
64. สุนัขทรงเลี้ยง นอกจากคุณทองแดง สุวรรณชาด สุนัขประจำรัชกาล ที่ปัจจุบันอยู่ที่พระราชวังไกลกังวล แล้ว ย ังมีสุนัขทรงเลี้ยงอีก 33 ตัว
65. ในหลวง เกิดจากคำที่ชาวเหนือใช้เรียกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า 'นายหลวง' ภายหลังจึงเปลี่ยนเป็น ในหลวง
66. ทรงเชี่ยวชาญถึง 6 ภาษา คือ ไทย ละติน ฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมัน และ สเปน
67. อาชีพของในหลวง เมื่อผู้แทนพระองค์ไปติดต่อเอกสารสำคัญใดๆทรงโปรดให้กรอกในช่อง อาชีพ ของพระองค์ว่า 'ทำราชการ'
68. ในหลวงทรงพระเนตรเทียมข้างขวา เป็นผลจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เมืองโลซานน์ สวิตเซอร์แลนด์ รถพระที่นั่งชนกับรถบรรทุกอย่างแรง ทำให้เศษกระจกเข้าพระเนตรข้างขวา ตอนนั้นมีอายุเพียง 20 พรรษา และทรงใช้พระเนตรข้างซ้ายข้างเดียว ในการทำงานบำบัดทุกข์บำรุงสุขประชาชนชาวไทยมาตลอดกว่า 60 ปี
69. ครั้งหนึ่งหนังสือพิมพ์อเมริกันลงข่าวลือเกี่ยวกับในหลวงว่า แซกโซโฟนที่ทรงอยู่เป็นประจำนั้นเป็นแซกโซโฟนที่ทำด้วยทองคำเนื้อแท้ บริสุทธิ์ ซึ่งได้มีพระราชดำรัสว่า'อันนี้ไม่จริงเลย สมมติว่าจริงก็จะหนักมาก ยกไม่ไหวหรอก'
70. ปีหนึ่งๆ ในหลวงทรงเบิกดินสอแค่ 12 แท่ง ใช้เดือนละแท่ง จนกระทั่งกุด
71. หัวใจทรงเต้นไม่ปรกติ ในหลวงเคยประชวรหนักจนหัวใจเต้นไม่ปกติ เนื่องจากต ิดเชื้อไมโครพลาสม่า ขณะขึ้นเยี่ยมราษฎรที่อำเภอสะเมิงติดต่อกันหลายปี
72. รู้หรือไม่ว่า ในหลวงเป็นคนประดิษฐ์รูปแบบฟอนต์ภาษาในคอมพิวเตอร์ที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้อย่าง ฟอนต์จิตรลดา ฟอนต์ภูพิงค์
73. ในนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี จัดขึ้นที่อิมแพ็ค มีประชาชนเข้าชมรวม 6ล้านคน
74. ในหลวงเริ่มพระราชทานปริญญาบัตรครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2493 จน 29 ปีต่อมาจึงมีผู้คำนวณว่าเสด็จพระราชทานปริญญาบัตร 490 ครั้ง ประทับครั้งละ 3 ชม. ทรงยื่นพระหัตถ์พระราชทาน 470,000 ครั้ง น้ำหนักปริญญาบัตรฉบับละ 3 ขีด รวมน้ำหนักทั้งหมด 141 ตัน
75. ดอกไม้ประจำพระองค์ คือ ดอกดาวเรือง
76. สีประจำพระองค์คือ สีเหลือง
77. นั่งรถหารสอง : ทรงรับสั่งกับข้าราชบริพารเสมอว่า การนั่งรถคนละคันเป็นการสิ้นเปลือง จึงให้นั่งรวมกัน ไม่โปรดให้มีขบวนรถยาวเหยียด
ความรู้นี้ได้รับมาจากฟอร์เวิล์ดเมล์ ก็ขอขอบคุณสำหรับผู้ที่เริ่มต้นเมล์นี้ เป็นสิ่งที่อ่านแล้วประทับใจ และอยากนำมาเผยแผ่ให้ได้อ่านกันจ๊ะ | |
|
| |
Mr.ladkrabang Moderator
จำนวนข้อความ : 641 : 36 Registration date : 24/07/2008
| เรื่อง: Re: เรารักในหลวง Thu Aug 14 2008, 14:51 | |
| ไม่มีอะไรมาลงครับ
ผมรักในหลวง และจะเป็นคนดี( จริงๆ ) | |
|
| |
Redrose19 Moderator
จำนวนข้อความ : 201 Registration date : 25/07/2008
| เรื่อง: Re: เรารักในหลวง Sun Aug 17 2008, 02:13 | |
| เพียงคำพูดสั้นๆนะครับ น้องลาดกระบัง ซึ้งใจแล้วนะครับ | |
|
| |
Bluemoon Moderator
จำนวนข้อความ : 882 Registration date : 23/07/2008
| เรื่อง: Re: เรารักในหลวง Mon Aug 18 2008, 19:34 | |
| เจ้าของกระทู้นี้นะ เป็นแรงใจสำคัญให้แอดมิน จัดการเปิดห้องใหญ่เรารักในหลวงฯ นี้จ๊ะ ขอบพระคุณค่ะ | |
|
| |
Mr.ladkrabang Moderator
จำนวนข้อความ : 641 : 36 Registration date : 24/07/2008
| เรื่อง: Re: เรารักในหลวง Tue Aug 19 2008, 13:47 | |
| ขอขอบคุณอีกเสียงครับ
ขอบคุณครับ | |
|
| |
Bluemoon Moderator
จำนวนข้อความ : 882 Registration date : 23/07/2008
| เรื่อง: Re: เรารักในหลวง Tue Aug 19 2008, 18:31 | |
| พี่มีเรื่องราวอีกเยอะนะจ๊ะ ได้รับข้อมูลมาไม่ได้ขาดสายเลย แต่เป็นเรื่องราวดีๆ ทั้งหมดเลย | |
|
| |
Mr.ladkrabang Moderator
จำนวนข้อความ : 641 : 36 Registration date : 24/07/2008
| เรื่อง: Re: เรารักในหลวง Tue Aug 19 2008, 18:58 | |
| เหมือนน้ำเลย น้ำป่าไหลหลาก | |
|
| |
| เรารักในหลวง | |
|